โยคะที่ช่วยรักษาอาการหลังค่อม

โยคะถือเป็นการออกกำลังกายอีกหนึ่งอย่างที่สามารถเรียกเหงื่อได้ไม่แพ้การออกกำลังกายแบบอื่นเลย แต่จะมีใครรู้บ้างว่าโยคะจะสามารถรักษาอาการหลังค่อมได้ เปรียบเทียบบได้ง่ายๆ ว่าโยคะก็คล้ายๆ กายภาพบำบัดอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง

     โยคะ มาจากคำภาษาสันสกฤต “yuji” (ยูจิ) หมายถึง ไม้ขวาง หรือรวมเป็นหนึ่ง โยคะเป็นการฝึกแบบโบราณ ที่รวบรวมจิตใจ และร่างกายเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ประกอบด้วยการออกกำลังกาย การหายใจ การทำสมาธิ และการโพสท่าที่ออกแบบมา เพื่อส่งเสริมการผ่อนคลาย และลดความเครียด การฝึกโยคะนั้นมีประโยชน์มากมาย สำหรับทั้งสุขภาพจิต และร่างกาย แม้ว่าผลประโยชน์เหล่านี้ จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์ก็ตาม

     อาการหลังค่อม (Kyphosis syndrome)  เป็นอาการของร่างกายที่พัฒนามาจาก พฤติกรรมความเคยชินของเรา เช่น การนั่งทำงาน เพ่งจ้องคอมนานจนเกินไป ยืนกดเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน ทำให้ ร่างกาย ต้องโน้มตัวลงมา ส่งผลทำให้ กล้ามเนื้อหลังช่วงบน (Upper Back) ทำงานหนัก ทำให้ ร่างกายแสดง อาการหลังค่อม ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล้านี้ได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการทำงานของงกล้ามเนื้อที่ไม่สมดุลกัน หรืออีกวิธีคือ การทำโยคะ(Yoga) นั่นเอง

          สาเหตุอาการหลังค่อมที่เกิดขึ้นจากชีวิตประจำวัน

• นั่งทำงานคอมพิวเตอร์ท่าทางผิดๆ เช่น ห่อไหล่ ตัวไม่ตรง
• นั่งเล่นมือถือห่อตัวผิด ๆ ทั้งวัน
• นั่งอ่านหนังสือห่อตัวผิด ๆ ทั้งวัน
• ขับรถบ่อย ๆ ทำให้อกถูกหดสั้นทั้งวันจนตึง
• บุคคลที่ขี้อาย ชอบห่อตัว
• อาชีพหมอฟัน
• ผู้ที่ชอบยกน้ำหนัก เล่นแต่กล้ามเนื้อหน้าอก ไม่เล่นส่วนหลังเลย จนกล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรงกว่ามาก แล้วดึงหัวไหล่มาด้านหน้า
• เด็กที่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ทั้งวัน

          อาการหลังค่อม เกิดจากอะไร?

     สาเหตุของการเกิดอาการหลังค่อม คือ  ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรม การนั่งทำงานเป็นเวลานาน หรือส่วนใหญ่ที่เราจะรู้จักกัน เรียกว่า พฤติกรรมที่มาจาก โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrom) และยังมีอีกพฤติกรรมที่มองข้าม คือ การสะพายเป้เป็นประจำ ซึ่งของที่ต้องขน ในแต่ละวันก็หนักหน่วง แต่เนื่องจากใช้ชีวิตประจำวันจนเคยชิน จึงทำให้เรามักเคยชินและละเลยกับสภาวะนี้ได้ แต่หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลทำให้เกิด อาการหลังค่อม

     กล้ามเนื้อที่ต้องทำงานหนักมากตลอดเวลา อยู่บริเวณหลังช่วงบนและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับอาการหลังค่อม ก็จะมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกันคือ

1)  Trapezius

2)  Rhomboids

3)  Lattisimus Dorsi

     ดังนั้น เราจึงต้อง ฝึกโยคะ โดยมีท่า ที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อกลุ่มนี้ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย มีความยืดหยุ่น ให้มากขึ้น

           ท่าโยคะ แก้หลังค่อม เพื่อบุคลิกภาพที่ดี

1.Cat-Cow

     เริ่มต้น ตั้งท่า เป็น Table Top เปรียบเสมือน โต๊ะสีขา ข้อมือ อยู่แนวเดียวกันกับหัวไหล่ และ วางเข่าทั้ง 2 ข้างให้กางเท่ากับสะโพก

     หายใจเข้า แอ่นหลังล่าง หลังกลาง และหลังบน แอ่นอก เงยคางขึ้น เป็น Cow Pose

     หายใจออก กดคางชิดอก โก่งหลังบนให้สูง เหมือนแมวโกรธ เป็น Cat Pose ทำติดต่อกัน 5 รอบ เพื่อให้กล้ามเนื้อเรามีพัฒนาการที่ค่อย ๆ ยืดได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

2.Cat-Twist

     เริ่มต้น จากท่า Table Top ท่าโต๊ะสีขา

     หายใจเข้า ยกแขนขวาขึ้น สายตามองขึ้นไปตามมือขวา หายใจออกสอดแขนขวา ให้ไหล่ขวา วางที่แผ่นแมท ทำ 5 รอบ (ทำเหมือนกัน ข้างซ้าย และ ขวา)  เพื่อค่อยๆ ยืดกล้ามเนื้อบริเวณหลังบน ที่ติดกับกล้ามเนื้อใกล้หัวไหล่ ให้ยืดเหยียดได้มากขึ้น

3.Extended Puppy Pose

     เริ่มต้น จาก Table Top ท่าโต๊ะสีขา เดินมือทั้ง 2 ข้างไปข้างหน้าให้สุด เพื่อยืดหลังช่วงบน (Upper Back) และก้มศรีษะ ลงที่แผ่นแมท ต่อมา วางเข่าที่แผ่นแมทให้แน่น และแขม่วท้อง ยืดหลัง ยืดสะโพก ให้สูงขึ้น ค้างไว้ 5 ลมหายใจ เพื่อรับรู้ร่างกายค่อย ๆ ผ่อนคลาย

4.Downward Facing Dog

     เริ่มต้น จากท่านอนคว่ำ และดันลำตัว ยกเข่าลอยขึ้น แขม่วท้อง แล้วดันสะโพกให้สูงขึ้น ยืดขาให้ตรง (ถ้าตึงขามาก งอขาได้) ค้างไว้ที่ท่านี้ 5 ลมหายใจ เพื่อยืดหลังอีกครั้ง

     เมื่อได้ฝึกท่า โยคะ(Yoga) แก้หลังค่อม นี้ทุกวันแล้ว จะทำให้ร่างกายได้ยืดหลัง ส่วนบนได้มากขึ้น อาการปวดเมื่อยก็จะหายไป จากหลังที่ตึง คอ บ่า ก็จะยืดหยุดได้ดีขึ้น สามารถฝึกเองที่บ้านได้

     โยคะมีให้เลือกเล่นได้ตามใจชอบหลากหลายประเภท และทุกประเภทก็ตอบโจทย์คนรักสุขภาพที่ต้องการออกกำลังกายด้วยท่วงท่าเบา ๆ แต่ได้สุขภาพไม่เบาด้วย ดังนั้นหากชอบประเภทใดหรือรู้ว่าประเภทใดที่เหมาะกับตัวเองแล้ว ก็ลองเปิดใจเล่นโยคะกันดูเสียแต่วันนี้กันเลย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเล่นโยคะในน้ำจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายที่น่าสนใจ แต่คุณก็ควรรู้ลิมิดของตัวเองและทำตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัดค่ะ หากจะให้ดีควรมีผู้ฝึกสอนคอยให้คำแนะนำหากคุณยังไม่เคยลองออกกำลังกายด้วยวิธีนี้มาก่อน

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

โยคะสำหรับสาวออฟฟิศ

โยคะไม่จำเป็นต้องเล่นที่บ้าน