สุขภาพดีด้วย โยคะ

ในปัจจุบัน การฝึกโยคะ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสาว ๆ ซึ่งที่จริงแล้ว โยคะ สามารถฝึกได้ทุกคน และทุกวัย แต่ก็ยังมีหลายคนยังมองไม่เห็นความสำคัญของการฝึกโยคะ คิดว่าก็เป็นแค่การยืดเส้นยืดสายเพียงเท่านั้น วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักประโยชน์จากการฝึกโยคะกัน

โยคะ คืออะไร

โยคะ (YOGA) หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ให้เป็นหนึ่งเดียว การฝึกโยคะ เป็นกระบวนการสำหรับฝึกร่างกาย ฝึกการหายใจ และฝึกจิตให้มีความจดจ่อกับเรื่องลมหายใจเข้าออก ทำให้มีสมาธิที่ดีขึ้น โยคะ ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย เมื่อประมาณ 4 – 5 พันปีก่อน ซึงในสมัยนั้น โยคะ ได้สงวนไว้แค่สำหรับพวกโยคี และกลุ่มชนชั้นวรรณะพราหมณ์ แต่ต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง โยคะ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น มีการพัฒนาร่วมกับวัฒนธรรมและความเชื่อของแต่ละศาสนา จนกลายมาเป็นโยคะอย่างที่เรารู้จัก

หลักการสำคัญของการฝึกโยคะ

• หายใจแบบโยคะให้ถูกต้อง : หายใจเข้า – ท้องพอง, หายใจออก – ท้องแฟบ ให้สอดคล้องเป็นจังหวะกับท่าโยคะ โดยสูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากพอ และปล่อยลมหายใจออกให้สุด เพื่อขับอากาศเสียออกจากร่างกาย และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ  
• ฝึกท่าแต่ละท่าอย่างช้า ๆ เป็นจังหวะ ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย แต่อย่าฝืนเกินไป เช่น ยืดตัวมากเกินไป เกร็งเกินไป ตึงมากไป บิดมากเกินไป ผู้มีปัญหาด้านสุขภาพแต่ละประเภท ควรฝึกทีละขั้น โดยเริ่มจากท่าง่าย ๆ ก่อน ทำเท่าที่ไหว
• การกำหนดจิต ให้มีสมาธิ ไม่วอกแวก พยายามไม่คุยกันระหว่างการฝึก ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ ควรฝึกเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง
• หยุดพักและผ่อนคลาย หลังฝึกแต่ละท่า โดยให้หายใจเข้า – ออก ช้า ๆ ลึก ๆ 5 - 7 รอบ เพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และปรับร่างกายเข้าสู่สภาวะปกติก่อนที่จะฝึกท่าต่อไป

ประโยชน์ของการฝึกโยคะ

• การเล่นโยคะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อแกนกลางมีความแข็งแรง ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการตึง บริเวณคอ บ่า และไหล่ให้ดีขึ้น หลายคนมักมีอาการปวดหลังจากการที่นั่งผิดท่า จากการทำงาน หรือการขับรถ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ทำให้เราอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ อาจทำให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อหลัง จนกระทั่งเกิดการกดทับกระดูกสันหลัง ซึ่งโยคะมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้
• โยคะ สามารถคลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะในขณะที่เราเคลื่อนไหวหรือยืดตัวในท่าโยคะ จะทำให้เรามีความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อโคนขาทางด้านหลัง หลัง ไหล่ และสะโพก
• เพิ่มความมั่นใจ และทำให้มีบุคลิกภาพที่ดี เพราะท่าโยคะหลายท่า ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และพัฒนาสมดุลของร่างกายให้ดีขึ้น
• โยคะ ช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่มักจะหลั่งออกมาเมื่อเราเกิดความเครียด
• โยคะ ช่วยคลายความกังวล และช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยให้มีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีขึ้น อารมณ์ไม่แปรปรวนบ่อย
• โยคะ ช่วยให้สมองหลั่งสารเอนโดฟินมากขึ้น การเล่นโยคะอย่างน้อย 1 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้สมองหลั่งสารกาบา (GABA) เพิ่มขึ้นได้ถึง 27% ซึ่งกาบา (GABA) หรือ แกมมา อะมิโนบิวทีริก แอซิด (Gamma-Aminobutyric acid) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท เพื่อรักษาความสมดุลของระบบสารสื่อประสาท ทำหน้าที่ช่วยให้สมองผ่อนคลาย ลดความเครียด ทำให้หลับสบายมากขึ้น
• โยคะ สามารถช่วยให้เราดูสดใส กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เนื่องจาก ท่าโยคะ ช่วยให้ร่างกายมีการผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) และฮอร์โมนดีเอชอีเอ (DHEA hormone) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ สดใส และทำให้รู้สึกสดชื่น

อ่านบทความเพิ่มเติม

คลายเครียดด้วยโยคะ

โยคะ ( Yoga ) กับการบำบัดโรคต่าง ๆ