โยคะ ( Yoga ) ให้มากกว่าการออกกำลังกาย

Share : facebook_share line_share twitter_share messenger_share

โยคะ ( Yoga ) ให้มากกว่าการออกกำลังกาย



โยคะ ( Yoga ) เป็นการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่งที่ให้ประโยชน์ไม่แพ้การออกกำลังกายแบบอื่น ๆ เลย แถมยังช่วยฝึกสภาพจิตใจให้สงบ เนื่องด้วยท่วงท่า และการกำหนดลมหายใจ

 

     โยคะ ( Yoga ) คือ การฝึกฝนร่างกาย และจิตใจ ด้วยชุดท่าที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาความแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายประกอบกับการหายใจ ทำให้เกิดสมาธิ และความผ่อนคลาย ซึ่งเป็นการฝึกฝนเพื่อให้สุขภาพร่างกาย และจิตใจเกิดความสมดุล

     โยคะ ( Yoga ) มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย และมีการฝึกฝนกันมาอย่างยาวนานนับ 5,000 ปี และต่อมาได้มีการนำมาดัดแปลงฝึกฝนกันในประเทศอื่น ๆ หลากหลายรูปแบบ จนถึงปัจจุบันได้เป็นการฝึกฝนร่างกายชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และพบเห็นได้ทั่วไป

 

โยคะ ( Yoga ) มีกี่ประเภท ?

     โยคะ ( Yoga ) มีมากกว่า 100 ประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีความแตกกันไป บางประเภทจะมีท่วงท่าที่รวดเร็ว และมีความเข้มข้นในการฝึกสูง และบางประเภทก็จะมีท่วงท่าที่นุ่มนวล และเน้นความผ่อนคลาย รวมไปถึงวิธีการหายใจของแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันไป

ตัวอย่างประเภทของ โยคะ ( Yoga ) เช่น

  • หฐโยคะ ( Hatha )
  • วินยาสะโยคะ ( Vinyasa )
  • อัษฎางค์โยคะ ( Ashtanga )
  • โยคะร้อน ( Bikram )
  • ไอเยนการ์โยคะ ( Iyengar )
  • ศิวะนันทะโยคะ ( Sivananda )
  • พาวเวอร์โยคะ ( Power Yoga )

     อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถบอกได้ว่า โยคะ ( Yoga ) ประเภทใดดีที่สุด หรือแต่ละประเภทดีกว่ากันอย่างไร ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้สามารถเลือกประเภทของ โยคะ ( Yoga ) ได้อย่างเหมาะสม จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ฝึก และความต้องการส่วนตัวของผู้ฝึกเอง แต่โดยส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โยคะ ( Yoga ) ประเภทใดก็ล้วนแต่เกิดผลดีต่อผู้ฝึกทั้งสิ้น

 

ระดับความเข้มข้นของการฝึก โยคะ ( Yoga )

     ระดับความเข้มข้นในการฝึก โยคะ ( Yoga ) จะขึ้นอยู่กับประเภทของ โยคะ ( Yoga ) ที่เลือกฝึก ตัวอย่างเช่น หฐโยคะ และไอเยนการ์โยคะ จะมีท่วงท่าที่นุ่มนวล และช้า ส่วนโยคะร้อน และพาวเวอร์โยคะ จะมีท่วงท่าที่รวดเร็ว และมีความท้าทายมากกว่า โดยผู้ที่ต้องการฝึก โยคะ ( Yoga ) สามารถสอบถามถึงราย และเอียดในการฝึก โยคะ ( Yoga ) แต่ละประเภทได้กับครูสอน โยคะ ( Yoga ) ที่ได้ผ่านการอบรม เพื่อให้ทราบว่าตนเองเหมาะกับ โยคะ ( Yoga ) ประเภทใด

 

ลักษณะเฉพาะของการฝึก โยคะ ( Yoga )

  • ฝึกความแข็งแรง เพราะ โยคะ ( Yoga ) เป็นการออกกำลังที่ต้องใช้พละกำลังของร่างกายในการทรงตัว หรือควบคุมให้ร่างกายอยู่ในท่าที่สมดุล ซึ่งการฝึก โยคะ ( Yoga ) เป็นประจำจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา หลัง และกล้ามเนื้อแกนกลาง มีความแข็งแรง
  • ฝึกความยืดหยุ่น เพราะท่าฝึก โยคะ ( Yoga ) จะช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และช่วยให้สามารถขยับร่างกายได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อฝึกเป็นประจำก็จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายได้
  • เป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ ( Low-Impact ) แม้ว่าการฝึก โยคะ ( Yoga ) จะเป็นการฝึกบริหารที่ใช้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ก็จะไม่ทำให้เกิดแรงกระแทกใด ๆ ต่อข้อต่อ

 

องค์ประกอบสำคัญของการเล่น โยคะ ( Yoga )

  • การวางท่า เป็นชุดท่าเคลื่อนไหวที่ออกแบบมาเพื่อให้ฝึกความแข็งแรง และความยืดหยุ่น ตั้งแต่ลำดับท่าที่เริ่มจากการนอนลงบนพื้นด้วยความผ่อนคลาย ไปจนถึงท่าที่ต้องใช้ความทนทานของร่างกายมากขึ้น
  • การหายใจ การควบคุมการหายใจเป็นสิ่งที่สำคัญของการเล่น โยคะ ( Yoga ) ซึ่งการฝึกการหายใจในการเล่น โยคะ ( Yoga ) จะช่วยให้สามารถควบคุมร่างกาย และช่วยให้จิตใจเกิดความสงบ
  • สมาธิ และการผ่อนคลาย การฝึก โยคะ ( Yoga ) เป็นการฝึกร่วมกันด้วยสมาธิ หรือการผ่อนคลาย โดยสมาธิจะช่วยให้เกิดสติ และความรู้สึกตัวอยู่กับปัจจุบัน

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ประโยชน์ของ โยคะร้อน ( Bikram Yoga )

ความสัมพันธ์ของ โยคะ ( Yoga ) กับเซ็กส์



บทความที่น่าสนใจ

แนะนำ 5 ท่าโยคะ เล่นแล้วแก้ปวดหลัง ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ มีท่าไหนกันบ้าง ไปดูกัน!
โยคะ ท่าง่ายๆ สำหรับ คนอ้วน