โยคะ ( Yoga ) ยืดหยุ่น กล้ามเนื้อ ผ่อนคลาย ร่างกาย

Share : facebook_share line_share twitter_share messenger_share

โยคะ ( Yoga ) ยืดหยุ่น กล้ามเนื้อ ผ่อนคลาย ร่างกาย



ประเภทของ การออกกำลังกาย มีให้เลือก หลากหลาย รูปแบบ ซึ่งมีทั้งแบบหนัก และแบบเบา แต่สำหรับสาว ๆ บางคนแล้ว ก็ต้องเลือก การฝึก โยคะ ( Yoga ) กันอย่างแน่นอน

 

โยคะ ( Yoga ) คืออะไร?

โยคะ ( Yoga ) เป็นศาสตร์โบราณ ที่ถือกำเนิดในประเทศอินเดียมามากกว่า 5,000 ปี ซึ่งหมายถึง ร่างกาย จิต และลมหายใจ การฝึกโยคะ เป็นการรวมกาย และใจเข้าด้วยกัน เสมือนกับการที่เรานั่งสมาธิ ต้องมีกายนิ่ง ใจสงบแน่วแน่ และลมหายใจที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้เกิดความสมดุลของร่างกาย เมื่อกายเราสมดุล จิตเราสงบนิ่ง จะช่วยยกระดับจิตให้สูงขึ้นไปด้วย

โยคะ ( Yoga ) ยืดหยุ่น กล้ามเนื้อ ผ่อนคลาย ร่างกาย

การฝึกโยคะนั้น เราจะต้องมีสติ และร่างกายที่รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อก่อให้เกิดเป็นสมาธิ ที่ผสานกับลมหายใจ จะเกิดเป็นความสมดุลในร่างกาย โยคะ ( Yoga ) จะช่วยพัฒนาจิตใจให้ดีขึ้น มีสมาธิ สามารถแยกแยะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ และสามารถควบคุมจิตใจตัวเราเองได้ ในปัจจุบัน ศาสตร์นี้ได้แพร่หลายไปสู่หลายประเทศทั่วโลก ทั้งตะวันตกจนตะวันออก ซึ่งในประเทศไทยเองก็มี สถาบันสอนโยคะ หลายแห่ง

 

หลักการที่สำคัญ ของการฝึก โยคะ ( Yoga )

1) การฝึกหายใจให้ถูกต้อง

โดยหายใจเข้าออก – ท้องพอง , หายใจออก – ท้องแฟบ และให้ลอง สอดคล้องเป็นจังหวะกับท่าโยคะ และ ให้เราสูดอากาศเข้าให้พอดีกับท่าฝึก เพื่อทำให้ได้ออกซิเจนมากพอ และปล่อยลมหายใจออกให้สุด เพื่อที่จะขับอากาศเสียออกจากร่างกาย และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ

 

2) เคลื่อนไหวช้าๆ แต่เป็นจังหวะ

ฝึกแต่ละท่าให้เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ เป็นจังหวะ เพื่อเป็นการควบคุม การเคลื่อนไหวของร่างกาย และอย่าฝืนจนเกินไป อย่ายืดตัวมาก หรือเกร็งเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ควรฝึกทีละขั้น โดยเริ่มจากท่าง่าย ๆ ก่อน

 

3) กำหนดจิตให้มีสมาธิ

เราควรกำหนดจิต ให้มีสมาธิอยู่ตลอด ไม่วอกแวก หันมองนู่น มองนี่ ควรจดจ่ออยู่กับการฝึก ไม่คุยระหว่างการฝึก และออกห่างจากเครื่องมือสื่อสาร หรือปิดเสียงโทรศัพท์มือถือถ้าจำเป็น และควรฝึกเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง

 

4) ควรหยุดพัก หรือ ผ่อนคลาย หลังฝึก ในแต่ละท่า

เราควร หยุดพัก หรือ ผ่อนคลาย หลังฝึก ในแต่ละท่า โดยการค่อย ๆ หายใจเข้า – ออก ช้า ๆ ลึก ๆ โดยประมาณ 5 - 7 รอบ เพื่อปรับร่างกายเข้าสู่สภาวะปกติ และคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ก่อนที่จะฝึกท่าต่อไป

 

ประโยชน์ของ โยคะ ( Yoga )

 

1) โยคะ ( Yoga ) ช่วยในเรื่องของรูปร่าง

การเคลื่อนไหวยืดเหยียด ช่วยเผาผลาญ และดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน การฝึกโยคะซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง จะช่วยให้กล้ามเนื้อของร่างกายดูเฟิร์มกระชับ และเมื่อไขมันเริ่มสลายหายไป จะทำให้เห็นส่วนเว้า ส่วนโค้งของร่างกายมากขึ้น เหมาะสำหรับสาวๆที่ต้องการมีรูปร่างที่ดีและสมดุล

 

2) โยคะ ( Yoga ) ช่วยในเรื่องของอารมณ์ และมีสมาธิ

การฝึกโยคะ ก็เหมือนกับการฝึกนั่งสมาธิ ทำให้จดจ่ออยู่กับตัวเองมากขึ้น สามารถกำหนดจิต และฝึกให้มีสติอยู่ตลอด เมื่อฝึกนานๆ จะส่งผลให้ใจเย็นลง อารมณ์ดีขึ้น มีสมาธิ และคิดอะไรอย่างระมัดระวังมากขึ้น

 

3) โยคะ ( Yoga ) ช่วยในเรื่องของความจำ และคลายเครียด

สภาวะที่เคร่งเครียด และเร่งรีบ อาจทำให้หลายคนต้องพบเจอกับอาการหลงๆลืมๆ แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากภาวะสมองเสื่อม แต่เกิดจากการไม่มีสมาธิ เราจึงควรฝึกโยคะ เพื่อเสริมสร้างความจำ อีกทั้งยังทำให้สมองปลอดโปร่ง คลายเครียดได้อีกด้วย

 

4) โยคะ ( Yoga ) ช่วยในเรื่องของอาการปวดต่าง ๆ ในร่างกาย

อาการปวดเอว, ปวดหลัง, ปวดข้อ, ปวดหัว, ไมเกรน, นอนไม่หลับ หรือแม้กระทั่งปวดประจำเดือน อาการเหล่านี้ถ้าไปหาหม  หมอมักจะรักษาไปตามอาการ และจ่ายยาให้ ซึ่งบางทีก็ไม่สามารถทำให้หายขาดได้ แต่หากลองฝึกโยคะไปสักระยะ ก็จะพบว่าหลายคนหายจากอาการปวดเหล่านี้ได้ โดยไม่ต้องพึ่งยา

 

โยคะ ( Yoga ) เป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ต้องใช้แรงมาก แค่ต้องใช้ร่างกาย จิต และการหายใจ ผสานให้เป็นหนึ่งเดียวกันเท่านั้น และจะเห็นได้ว่า การออกกำลังกายรูปแบบนี้ มีแต่ประโยชน์มากมายเลยทีเดียว

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ประโยชน์การเล่น โยคะ ได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด

โยคะ ( Yoga ) ยามเช้า ค่อย ๆ ตื่นรับเช้าวันใหม่ไปด้วยกัน



บทความที่น่าสนใจ

ฝึกโยคะ ยามเช้า ด้วยท่า “สุริยนมัสการ”
โยคะ เด็ก กิจกรรมที่ควรให้ลูก ๆได้ลองเล่น